เชื่อว่าใครหลาย ๆ คน รวมถึงตัวผมเอง คงเคยได้ยินชื่อของ “คนคนนั้น” ไม่มากก็น้อย ทั้งจากคลิปใน Youtube ก็ดี, โพสต์ใน Facebook ก็ดี หรือคำบอกเล่าจากปากต่อปากก็ดี การพูดถึงเรื่องของเขาทำให้เรา “ข น ลุ ก” กันอย่างแน่นอน และเขาคนนั้นก็คือ “Herobrine” ชายสวมเสื้อสีฟ้าอมเขียวและกางเกงสีน้ำเงินเหมือนกับ Steve แต่กลับมีดวงตาที่ขาวโพลน อย่างไรก็ตาม ดวงตาสีขาวคู่นั้นไม่ได้สื่อถึงความขี้ขลาดแต่อย่างใด แล้วจริง ๆ เขาเป็นใครกันแน่?? ผม “PhoNgPitCHz” จะมาเจาะลึกเรื่องราวของเขา พร้อมกับแหกความจริงของชายคนนี้ให้ทุกคนได้รู้กันครับ
***WARNING***
ในบทความนี้อาจมีภาพหรือเนื้อหาที่น่ากลัว โปรดเตรียมใจในการอ่าน
เรื่องราวที่เราคุ้นเคยของ Herobrine
Herobrine ชายผู้มีดวงตาสีขาวโพลน แต่งกายคล้ายกับ Steve ที่เป็นตัวละครหลักในเกม เขาชอบสร้างสิ่งก่อสร้างคล้ายพีระมิดด้วยบล็อกดิน ทราย หรืออิฐ รวมถึงสร้างอุโมงค์ภายในถ้ำและภูเขา ส่วนความสามารถของเขาได้ถูกเล่าขานถึงความน่ากลัว โดย Herobrine จะชอบจ้องมองคุณ แต่คุณจะมองเห็นเขาได้เพียงราง ๆ หากคุณไม่ตามหาเขา เขาก็จะไม่ทำอะไรคุณ แต่ถ้าคุณยังดื้อดันที่จะตามหาเขา คุณจะถูกลงโทษด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างปฏิเสธไม่ได้ จนคุณไม่อยากที่จะกลับเข้าไปในโลกนั้นอีก หรือไม่อยากที่จะกลับเข้าไปในเกมไมน์คราฟต์อีกตลอดกาลก็เป็นได้
หลังจากช่วง Alpha เข้าสู่ Beta อย่างเป็นทางการ Herobrine จะไม่โผล่มาให้คุณเห็นอีกต่อไป แต่คุณจะต้องสร้างแท่นบูชาเพื่อเรียกเขาออกมา โดยแท่นบูชานี้จะใช้การวางบล็อกทองในลักษณะ 3×3 และเว้นตรงกลางไว้วางหินหยาบมอสส์หรือทรายวิญญาณ จากนั้นจึงวางคบเพลิงเรดสโตนจำนวน 4 แท่ง และสุดท้ายให้วางหินเนเธอร์ตรงกลางพร้อมจุดไฟ หากการบูชาเกิดขึ้นในวันและเวลาที่สมควรแล้ว คุณจะพบกับจุดจบในโลกของคุณอย่างแน่นอน
โดยเรื่องราวของการพบเจอกับ Herobrine เป็นครั้งแรกเริ่มมาจากโพสต์ของผู้ใช้คนหนึ่งในเว็บบอร์ด 4chan ซึ่งตัวเขาได้เขียนอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ดังนี้
***เนื้อหาอาจไม่ได้แปลตรงตามต้นฉบับ 100% โดยมีการดัดแปลงคำ/ประโยคบางส่วนและขยายความเพิ่มเติม เพื่ออรรถรสในการอ่าน***
“ผมเพิ่งสร้างโลกไมน์คราฟต์ในโหมดผู้เล่นคนเดียว ในตอนแรกทุกอย่างดูปกติดี ผมเริ่มตัดไม้เพื่อนำมาทำโต๊ะคราฟต์ แต่ตอนนั้นเอง ผมสังเกตเห็นบางอย่างกำลังขยับอยู่หลังหมอก ในตอนนั้นผมคิดว่ามันคือวัว ผมเลยตั้งใจจะเข้าไปหามันเพื่อเอาหนังสัตว์มาทำเป็นชุดเกราะสำหรับใส่เอง แต่ไม่ว่าจะหายังไงก็หาวัวไม่เจอซักที
จนกระทั่งผมหันหลังกลับ ผมเจอกับตัวละครปริศนาที่มีรูปร่างคล้ายกับตัวละคร Steve แต่ดวงตาของเขากลับมีสีขาวโพลนและไม่มีชื่อบอกว่าเขาเป็นใคร ผมเลยกดหยุดเกมและเช็คให้แน่ใจว่า ผมอยู่ในโหมดผู้เล่นคนเดียว ไม่ได้เข้าผิดโหมดจริง ๆ หลังจากผมจึงกดเล่นต่อ แต่ชายคนนั้นก็ยังจ้องมองมาที่ผมแบบไม่ละสายตา ผมมือสั่นทำอะไรไม่ถูกจึงหันหน้าหนี แต่หลังจากรวบรวมความกล้าและหันกลับไปอีกครั้ง เขาก็วิ่งหนีเข้าไปในหมอกอย่างรวดเร็ว ด้วยความสงสัยและความอยากรู้ ผมเลยตามเขาไป แต่ไม่ว่าผมจะหาเขายังไง ผมก็หาเขาไม่เจอ
ผมเลยกลับมาเล่นเกมต่อตามปกติ คิดซะว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งผมเดินออกไปสำรวจโลก ผมกลับเจอสิ่งก่อสร้างประหลาด ไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นตามปกติของโลกไมน์คราฟต์ ต้องมีใครสักคนสร้างมันขึ้นมาแน่ ๆ มันเป็นอุโมงค์ขนาด 2×2 ที่เหมือนมีใครซักคนขุดไว้ ผมจึงเดินเข้าไปในนั้น หลังจากนั้นผมเจอกับกองทรายรูปทรงพีระมิดและต้นไม้ที่ไม่มีใบเหลือเลยสักใบ ผมคิดออกได้แค่อย่างเดียวว่าต้องเป็นฝีมือของชายคนนั้นเป็นอย่างแน่ ผมเลยปรับระยะการมองเห็นให้ไกลขึ้น เพื่อที่จะหาตัวเขาได้ง่ายขึ้น แต่ถึงจะปรับจนสุดแล้ว ผมก็ไม่เห็นเขาอีกเลย
ผมเลยเซฟเกม แล้วออกไปโพสต์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นใน Forum เพื่อถามคนอื่นว่ามีใครเคยเจอเหตุการณ์ประหลาดแบบนี้เหมือนผมมั้ย แต่หลังจากที่โพสต์ไปได้ 5 นาที โพสต์ของผมก็ถูกลบโดยไม่ทราบสาเหตุ ผมเลยโพสต์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งรอบนี้โดนลบไวกว่ารอบแรกมากจนผิดสังเกต หลังจากนั้นไม่นาน มีผู้ใช้ปริศนาชื่อว่า “Herobrine” ส่งข้อความหาผม โดยเขาบอกว่า “หยุด” ด้วยความสงสัย ผมเลยกดเข้าดูที่โปรไฟล์ของเขา ซึ่งก็ทำให้ผมเองยิ่งงงเข้าไปใหญ่ เพราะมันขึ้นว่าไม่มีโปรไฟล์นี้อยู่บนเว็บไซต์ หลังจากนั้นอีกไม่นานเช่นกัน ผมได้รับอีเมลจากบุคคลปริศนาที่บอกว่า ตัวเขาเองก็เคยพบเจอกับเหตุการณ์นี้เช่นเดียวกัน
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป 1 เดือน ผมได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากคนในอีเมลคนเดิม เขาบอกว่าเขาได้รับข้อมูลเกี่ยวกับคนที่ชื่อ Herobrine ว่า คนที่ใช้ชื่อนี้เป็นคนสวีเดน และก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล แต่เป็นน้องชายของ Notch ผู้สร้างเกมไมน์คราฟต์
หลังจากที่ผมได้รู้ข้อมูลนี้ ผมเองก็เกิดความสงสัย เลยส่งอีเมลไปหา Notch โดยตรง เพื่อถามว่าเขามีน้องชายหรือไม่ ซึ่งเขาก็ตอบกลับมาสั้น ๆ ว่า “มี แต่เขาไม่ได้อยู่กับเราแล้ว”
ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะต้องมาเจอกับเหตุการณ์นี้ และไม่เคยคิดว่ามันจะน่ากลัวขนาดนี้ ผมรู้แค่ว่าตอนนั้นผมเจอ Herobrine และได้ถ่ายภาพหน้าจอไว้ ซึ่งนี่ก็คือหลักฐานทั้งหมดที่ผมมี เกี่ยวกับชายที่ชื่อว่า “H E R O B R I N E””
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเหตุการณ์ของ Copeland โดยเขาเป็นสตรีมเมอร์ที่ได้เจอ Herobrine จัง ๆ กลางไลฟ์ ทำให้เจ้าตัวนั้นสั่นกลัว และกรี๊ดจนทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว
โดยก่อนเหตุการณ์นั้น เขาเคยถ่ายภาพสกรีนช็อตหนึ่งไว้ ซึ่งภาพนั้นก็เห็นตัวของ Herobrine อีกด้วย และภาพนี้เองก็ทำให้เจ้าตัวเชื่อว่า Herobrine มีอยู่จริง จนทำให้ Copeland กลัวเป็นอย่างมาก
ต่อมาในวันที่ 30 สิงหาคม 2010 Copeland ได้ไลฟ์ผ่านแพลตฟอร์มหนึ่ง (archive ของไลฟ์นั้น) โดยเขาได้เล่นไมน์คราฟต์เอาชีวิตรอดในโหมดผู้เล่นคนเดียวตามปกติ แต่ก็ยังกังวลถึงการปรากฏตัวของ Herobrine จากภาพที่ถ่ายไว้ในตอนแรก โดยในไลฟ์ Copeland ได้บ่นให้กับช่องแชทและเพื่อนที่อยู่ในโปรแกรมพูดคุยว่า “นั่นคือทั้งหมดที่ผมทำ ก่อนที่เขาจะทำลายมัน”
มีอยู่ช่วงหนึ่งเขาเห็นว่าตัวละครผู้เล่นของเขาขยับได้เอง ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้กดคีย์บอร์ดด้วยซ้ำ ซึ่งเขาได้พูดว่า “โอ้พระเจ้า เขาเข้าควบคุมคีย์บอร์ดของผมแล้ว! เอ๊ะ! หรืออาจจะไม่ใช่เขากันนะ?”
ซึ่งหลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นไป 15 นาที เพื่อนของเขาที่สงสัย เลยถาม Copeland ไปว่า “ทำไมนายถึงไม่มีสกินละ” ซึ่งเขาก็ตอบว่า “เพราะเขาไง เขาเปลี่ยนสกินผมให้กลายเป็น Steve ผมบอกแล้ว ว่าเขา!! เขา!! เขามีอยู่จริง!!” หลังสิ้นสุดประโยคนั้นเจ้าตัวก็ได้เปิดประตูของห้องหนึ่งที่อยู่ในบ้านหลังใหญ่ ซึ่งหลังประตูนั้น Copeland ได้ประจันหน้ากับ Herobrine แบบเต็ม ๆ ตา ทำเอาเจ้าตัวกลัวตัวสั่น จนถึงขั้นต้องปิดไลฟ์กันเลยทีเดียว
ซึ่งหลังจากเหตุการณ์นี้จบลง ก็ทำช่องแชทหลาย ๆ คนไม่กล้าที่จะเปิดไมน์คราฟต์เล่นเลยทีเดียวส่วนทางฝั่งไทยก็มีเหตุการณ์ที่คล้ายคลึงกัน นั่นคือจากยูทูบเบอร์สายไมน์คราฟต์อย่างพี่ LuviKunG แห่ง irpgTV ที่เคยเจอกับ Herobrine มาแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่การเจอประจันหน้าแบบ Copeland แต่ก็ทำให้หลายคนเชื่อว่า Herobrine นั้นมีตัวตนอยู่จริง ๆ
ซึ่งเนื้อหาในคลิปช่วงแรกจะเป็นการเล่าเหตุการณ์แปลก ๆ ที่เชื่อว่า Herobrine เป็นคนทำ โดยจะมีอยู่ 3 เหตุการณ์ด้วยกัน
***เนื้อหาอาจไม่ได้เล่าตรงตามต้นฉบับ 100% โดยผมได้นำมาเรียบเรียงใหม่เพื่ออรรถรสในการอ่าน***
เหตุการณ์แรกเป็นของคุณ isaz โดยเขาเล่าว่า
ในวันนั้นผมอยากที่จะสร้างทางรถไฟจากบ้านของผมไปที่ข้างบ้านของ LuviKunG ผมเลยได้ไปขออนุญาตเจ้าตัว ซึ่งเขาก็อนุญาต ผมเลยเริ่มสร้างจนเสร็จและสามารถใช้งานได้ แต่วันหนึ่ง จู่ ๆ รางรถไฟและคบเพลิงเรดสโตนจำนวนมากกลับหายไปโดยไม่ทราบสาเหตุ ผมมั่นใจว่าไม่มีใครมาแกล้งแน่นอน แล้วมันจะเป็นใครได้ ถ้าไม่ใช่…
เหตุการณ์ที่สองเป็นของพี่ LuviKunG โดยเขาเล่าว่า
วันแรกที่ผมเจอเหตุการณ์ประหลาด วันนั้นผมออกไปที่สกายแลนด์ ซึ่งระยะทางมันห่างออกไปเป็น 1,000 บล็อก แต่หมาของผมดันวาร์ปมาหาผม ทั้งที่จริงมันไม่ควรเป็นอย่างนั้น นอกจากจะมีใครซักคนมาตีหมาของผมแน่ ๆ ซึ่งในเวลานั้นน้องชายของผมก็เล่นอยู่ในเซิร์ฟเวอร์ ผมเลยบอกน้องให้ไปดูที่บ้านหน่อยว่ามีใครอยู่ในบ้านของพี่มั้ย ซึ่งคำตอบที่ได้มาทำให้ผมต้องผวา เพราะว่าไม่มีใครอยู่ในบ้านเลย
และในวันต่อมา ผมกำลังจะไปที่ห้องทดลองของผม แต่กลับพบว่าประตูลับเข้าห้องทดลองไม่สามารถใช้งานได้ ซึ่งตอนนั้นผมคิดว่าน่าจะเป็นบั๊กของเกม ผมเลยขุดเข้าไปเช็ควงจรประตู และนั่นเองทำให้ผมเห็นว่าคบเพลิงเรดสโตนของผมหายไป 2 แท่ง แต่หลังจากที่ผมได้เช็คทุกซอกทุกมุมแล้ว กลับไม่พบร่องรอยของใครเลยในห้องทดลอง
เหตุการณ์ที่สามเป็นของพี่ sharifyasan โดยเขาเล่าว่า
มีวันหนึ่ง ผมเห็นแกะตัวหนึ่งกำลังยืนอยู่บนกล่อง ในตอนนั้นผมเองก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะที่เห็นก็เป็นแค่แกะปกติตัวหนึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่นาน แกะตัวนั้นได้เดินลงจากกล่องแล้วก็ตายทันที ซึ่งตามปกติแล้ว สัตว์และมอนสเตอร์ทุกชนิดจะไม่โดนดาเมจถ้าตกลงมาแค่ 1 บล็อก แล้วทำไมแกะตัวนั้นถึงตายทั้ง ๆ ที่ตกลงมาแค่บล็อกเดียว หรือจะมีใครล่องหนอยู่แล้วตีแกะตัวนั้น เพื่อสร้างสถานการณ์ขึ้นหรือเปล่า
และหลังจากนั้นทั้งสามก็ได้ออกตามล่า Herobrine กัน แต่ไม่ว่าจะปรับระยะการมองเห็นเป็นต่ำสุดแล้ว สร้างแท่นอัญเชิญก็แล้ว หรือปักคบเพลิงเรดสโตนก็แล้ว แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววของ Herobrine เลยแม้แต่น้อย แต่จู่ ๆ คลิปก็ตัดข้ามไปโดยขึ้นว่า
ทางเราเกิดข้อผิดพลาดทางเทคนิคบางอย่าง ซึ่งชารีฟต้องไปทำงานบ้าน จึงไม่สามารถดำเนินการอัดต่อได้ แต่ลูวี่กับไอแซ๊สยังสามารถเล่นต่อ แต่เราไม่ได้อัดรายการแล้ว …จนกระทั่ง… ไอแซ๊สเห็นความผิดปกติบางอย่าง จึงทำการขึ้นไปสกรีนช็อตถ่ายไว้ และเรา… ก็ได้… …“พบเขา”…
โดยเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในคลิป [irpg Minecraft TV] – Episode 7 – ตามหา Herobrine ผมคิดว่าใครหลาย ๆ คนที่เชื่อว่า Herobrine มีจริงก็คงจะมาจากคลิปของ LuviKunG แห่ง irpgTV อย่างแน่นอนครับ
ยิ่งไปกว่านั้น ในการอัปเดตของเกมตั้งแต่เวอร์ชัน Beta 1.6.6 ลามมาจนถึงเวอร์ชันล่าสุดอย่าง 1.21 จะมีข้อความระบุว่า “– Remove Herobrine” จนทำให้หลาย ๆ คนคิดกันว่า Herobrine นั้นอาจมีตัวตนอยู่จริง ๆ ก็ได้ แถมยังลบไม่ออกจากเกมอีกด้วย รวมถึงสื่อโปรโมตของไมน์คราฟต์เอง ไม่ว่าจะเป็นเกมหลัก, รุ่น Xbox หรือรุ่นอื่น ๆ จะเห็นว่ามี Herobrine แอบซ่อนอยู่ที่ด้านหลังของภาพ ทำให้คนยิ่งเชื่อเข้าไปกันใหญ่ว่าในเกมมี Herobrine อยู่จริง ๆ
สรุปแล้ว Herobrine แล้วมีตัวตนจริงไหม??
อ่านกันจนถึงตอนนี้ ทุกคนคงอยากจะรู้แล้วว่า Herobrine เป็นใครกันแน่ และมีตัวอยู่จริงหรือไม่ ผมจะมาบอกความจริงกับทุกคนว่า… Herobrine มัน… ไม่มีอยู่จริงครับ
คือมันเป็นอย่างนี้ครับ จริง ๆ แล้ว Herobrine เป็น creepypasta หรือเรื่องราวสยองขวัญที่ส่งต่อ ๆ กันผ่านอินเทอร์เน็ต โดยอาจเป็นเรื่องที่อิงมาจากความจริงหรือแต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้ประพันธ์ก็ได้ พูดง่าย ๆ ก็คือ Herobrine เป็นเรื่องเล่าสยองขวัญที่อิงมาจากวิดีโอเกมไมน์คราฟต์
โดยเหตุที่ใช้เกมนี้เป็นสื่อหลักก็คงเป็นเพราะว่าโลกของไมน์คราฟต์มันมีความโดดเดี่ยวด้วยตัวมันเองอยู่แล้ว มีเรื่องราวมากให้ผู้เล่นได้หยิบยกขึ้นมาคิดถึงที่มาที่ไปของสิ่งต่าง ๆ และเติมแต่งช่องโหว่ของเนื้อเรื่อง ซึ่งการเติมแต่งเนื้อเรื่องให้มันน่ากลัวขึ้นก็สามารถเรียกกระแสชักชวนให้แฟน ๆ เกมเข้ามาพิสูจน์หาความจริงได้นั่นเองครับ
แล้วที่เล่ามาก่อนหน้านั้นไม่เป็นความจริงทั้งหมดเลยหรอ?? ใช่แล้วครับ เพราะว่าเรื่องที่เล่ามาทั้งหมดล้วนเป็นเรื่องราวที่แต่งและเซ็ตขึ้นมาครับ ซึ่งผมเองก็มีหลักฐานว่าเขาได้หลอกทุกคน เกี่ยวกับชายที่ชื่อว่า Herobrine ครับ
โดยเรื่องของ Copeland หลังจากที่ปิดไลฟ์ไป เขาก็ได้นำไลฟ์สตรีมอันนั้นไปโพสต์ลงใน Forum แล้วจึงกลับมาไลฟ์ต่อด้วยท่าทีที่หวาดกลัว และหลังจากนั้น Copeland ก็ไม่ได้เจอ Herobrine อีกเลย แล้วทำไมเขาถึงไม่เจอ Herobrine อีกครั้งล่ะ??
จากคำสารภาพของ Copeland ที่ได้ให้ไว้กับแอดมิน Minecraft Wiki ว่าเจ้า Herobrine ที่เราเห็นนั้นที่จริงแล้วมันคือการใช้งาน texture pack ของไอเทมภาพวาดเท่านั้น ซึ่งในช่วงที่ปิดไลฟ์ไป เจ้าตัวก็ได้ทำการลบ texture pack ดังกล่าวออก แล้วกลับมาไลฟ์ต่อตามที่ได้เล่าไปก่อนหน้านั้นเองครับ
ซึ่งสาเหตุที่ได้สร้างเหตุการณ์สุดสะพรึงนี้ขึ้นมา เพราะว่าเขาชอบเรื่องราวหนึ่งจากเว็บไซต์ 4chan ที่ผมได้เล่าไปในตอนแรกสุดของบทความนั้นเองครับ
แต่มันมีเรื่องราวมากกว่านั้นนิดหน่อยครับ เพราะว่ามีสตรีมเมอร์อีกรายหนึ่งที่ชื่อว่า Patimuss ได้เจอตัว Herobrine ด้วยเช่นเดียวกัน โดยวิดีโอนั้นเผยให้เห็นว่า ตัวของ Herobrine นั้นได้ลอยตัวอยู่บนลาวา แต่สักพักภาพไลฟ์ของเขาได้ขาดหายไปช่วงหนึ่ง แต่หลังจากสัญญาณภาพกลับมาเป็นปกติแล้ว ไม่ว่าจะออกตามหาเท่าไร เขาก็ไม่พบ Herobrine อีกเลย
แต่หลังจากที่ Patimuss ได้กลับมาไลฟ์อีกครั้ง ดันมีเสียงภรรยาของเขาที่กำลังคุยกับเจ้าตัวในเรื่องการแสดงละครหลอกคนดู เรียกสั้น ๆ ว่า “โป๊ะ” นั่นแหละครับ ทำให้คนดูในช่วงเวลานั้นต่างไม่พอใจอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งนั่นก็ทำให้ Copeland ไม่พอใจ Patimuss มาก ๆ เช่นกัน เพราะว่าไปเปิดเผยว่าเรื่องของ Herobrine เป็นเรื่องหลอกลวง
ซึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์นั้น Copeland ได้ส่งลิงก์หนึ่งในช่องแชท โดยลิงก์นั้นก็คือ ghostinthestream.net/him.html หากเรากดเข้าไป เราจะเจอหน้าของ Steve หรือไม่ก็ Herobrine ที่ตาของเขานั้นดำสนิท แต่กลับมีดวงตาของคนจริง ๆ ที่กำลังกลอกลูกตาไปมา และข้างล่างนั้นมีข้อความปนกับตัวอักษรพิเศษจนอ่านไม่ออก แต่ถ้านำตัวอักษรที่อ่านไม่ได้ออก แล้วนำมาอ่านใหม่อีกครั้ง ก็จะได้เนื้อความประมาณนี้
“มีรายงานเกี่ยวกับเหยื่อที่โดนสังหารทั้งเป็น เหยื่อทั้งหมดถูกพาไปยังโลกแห่งจินตนาการ ที่พวกเขาไม่สามารถตื่นขึ้นได้ ในสภาพที่ขยับไม่ได้เหมือนตายทั้งเป็น ใครก็ตามที่อยู่บนโลกปกติ หรือใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในสภาวะตายทั้งเป็น สิ่งเดียวที่จะช่วยพวกเขาเหล่านี้คือ ทำให้พวกเขารับรู้ถึงการตื่นขึ้น นั้นน่าจะเป็นวิธีเดียว ที่จะส่งสารให้กับใครก็ตามที่ติดอยู่ในโลกแห่งจินตนาการได้ พวกเขาจะสามารถรับรู้ได้กับสิ่งที่จะต้องพบเจอ และจะปลุกพวกเขาได้ ถึงแม้จะใช้เวลานานเป็นเดือน ๆ เลยก็ตาม แต่ขอร้อง จงตื่นขึ้นมาเสีย”
ซึ่งข้อความนี้เป็นส่วนหนึ่งของเรื่อง “Wake Up?” creepypasta อีกเรื่องหนึ่งที่ถูกแต่งขึ้นมาในปี 2008 โดยเราสามารถตีความระหว่างเรื่องนี้กับเรื่องของ Herobrine ได้ว่า “Herobrine นั้นเป็นเรื่องที่มาจากจินตนาการ จงตื่นขึ้นเพื่อพบเจอกับโลกแห่งความเป็นจริงอีกครั้ง” หรือก็คือ Herobrine นั้นเป็นเรื่องจากจินตนาการ มันไม่มีจริง
และเรื่องสุดท้ายที่ผมเล่า นั่นคือเรื่องของพี่ LuviKunG แห่ง irpgTV นั้นเองครับ หลังจากที่คลิปนั้นได้ลงไป พี่เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย จนวันที่ 25 สิงหาคม 2020 พี่ LuviKunG ได้แชร์โพสต์ของค่ายเน็ตแบรนด์หนึ่ง โดยตัวโพสต์ได้ถามว่า “เคยหลอกเพื่อนด้วยประโยคว่าอะไรบ้าง” แต่แคปชันที่เขาพิมพ์มาทำหลายคนช็อกไปตาม ๆ กัน เพราะนั้นเป็นคำว่า “กุหลอกเด็กทั้งประเทศว่ามี Herobrine…” หรือก็คือ Herobrine อะไรนั่นน่ะ ไม่มีจริง
และเรื่องสุดท้ายที่ผมเล่า นั่นคือเรื่องของพี่ LuviKunG แห่ง irpgTV นั้นเองครับ หลังจากที่คลิปนั้นได้ลงไป พี่เขาก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีกเลย จนวันที่ 25 สิงหาคม 2020 พี่ LuviKunG ได้แชร์โพสต์ของค่ายเน็ตแบรนด์หนึ่ง โดยตัวโพสต์ได้ถามว่า “เคยหลอกเพื่อนด้วยประโยคว่าอะไรบ้าง” แต่แคปชันที่เขาพิมพ์มาทำหลายคนช็อกไปตาม ๆ กัน เพราะนั้นเป็นคำว่า “กุหลอกเด็กทั้งประเทศว่ามี Herobrine…” หรือก็คือ Herobrine อะไรนั่นน่ะ ไม่มีจริง
ซึ่งเรื่องของ Herobrine เองก็เป็นเรื่องที่เกินความควบคุมไปมาก จนมีหลาย ๆ คนได้ส่งอีเมลไปหา Notch ผู้สร้างเกมไมน์คราฟต์ว่า “สรุปแล้ว Herobrine มีจริงไหม?” และมันคงเยอะมากจริง ๆ จนทำให้ Notch ได้ตั้งอีเมลกลับอัตโนมัติเมื่อมีคำว่า “Herobrine” อยู่ในคำถาม โดยอีเมลกลับอัตโนมัติมีใจความว่า
“สวัสดี นี่เป็นการตอบกลับแบบอัตโนมัติ เนื่องจากอีเมลของคุณมีคำว่า Herobrine ผมได้รับอีเมลเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก และผมก็ไม่สามารถตอบเองให้ครบทุกคนได้
Herobrine ไม่ใช่และไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของไมน์คราฟต์ และผมก็ไม่มีน้องชายที่ตายไปแล้วเช่นกัน เป็นไปได้ว่ามีม็อดบางตัวที่ใส่ Herobrine เข้ามา เพื่อเล่นตลกหรือแกล้งผู้เล่นคนอื่นให้คิดว่าตัวเห็น Herobrine จริง ๆ แต่ถึงอย่างนั้น เรื่องราวเบื้องหลังของตัวละครนี้ก็ไม่เป็นความจริงเลย”
แล้วทำไม Herobrine ถึงได้รับความนิยมในยุคนั้น??
แน่นอนว่าใครที่เพิ่งเข้ามาเล่นไมน์คราฟต์ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ก็คงจะสงสัยว่า “ทำไมในช่วง 10 ปีก่อน Herobrine ถึงดังขนาดนั้น?” ซึ่งมันมีอยู่ 3 สาเหตุหลัก ๆ ที่ผมจะนำมาอธิบายให้เข้าใจกันครับ
‘ความน่ากลัว’ และ ‘ความลึกลับ’
นี่น่าจะเป็นเหตุผลอันดับแรก ๆ ในหัวของทุกคนเลย ตามที่ผมเล่าให้ฟังในช่วงแรก Herobrine นั้นเป็น creepypasta หรือเรื่องเล่าชวนสั่นประสาทบนอินเทอร์เน็ต โดยเน้นไปที่ความน่ากลัวกับความลึกลับเป็นหลัก
ด้วยเนื้อเรื่องที่หลาย ๆ คนเล่ากันมา มันมีแต่ความน่ากลัวที่ว่า ใครที่เจอ Herobrine ตัวเป็น ๆ จะต้องพบกับจุดจบของตัวเองอย่างไม่อาจหลีกหนีได้ แต่ด้วยความลึกลับและความไม่แน่นอนถึงการมีอยู่ของเขา ซึ่งในตรงนี้เอง ก็ทำให้ผู้ที่เล่นไมน์คราฟต์ในช่วงนั้นอยากที่จะรู้และพิสูจน์ว่าจริง ๆ แล้ว Herobrine นั้นมีจริงหรือไม่
ถ้าไม่เจอก็แค่ไม่เจอ คิดซะว่ามันเป็นเพียงจดหมายลูกโซ่ที่แชร์ต่อ ๆ กันมาก็เท่านั้น แต่ถ้าเจอก็จะได้เอาไปโม้ให้คนอื่น ๆ เช่น เพื่อนในชีวิตจริง ฟังได้แน่ หรือไม่ก็โพสต์ลงในโลกออนไลน์ และประกาศให้ทุกคนรู้ว่า Herobrine นั้นมีตัวตนอยู่จริง ๆ
‘ความอิสระ’ และ ‘การปล่อยจินตนาการอย่างไม่สิ้นสุด’
แม้ผมจะบอกไปในหัวข้อก่อนหน้าว่า Herobrine ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง ๆ แต่จากเหตุการณ์หลาย ๆ มันมีน้ำหนักมากจนยากที่จะปักใจเชื่อได้ว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง ซึ่งจุดนี้แหละได้เปิดให้คนเกิดการปรุงแต่งสิ่งที่พบในโลกไมน์คราฟต์ว่าเป็น Herobrine และอยากออกตามหาเขาเพื่อพิสูจน์ว่าเขามีจริงหรือไม่ หรือไม่ก็อยากแต่งเรื่องราวการเจอกับ Herobrine ของตัวเองเพื่อความสนุกที่ได้เห็นคนกลัวและนำเรื่องของตัวเองไปเล่าต่อ
แน่นอนว่าการจะยกหัวเรื่องแค่ว่า “ฉันไปเจอ Herobrine มา เขามีตาสีขาว ใส่ชุดเหมือน Steve” มันก็คงจะไม่น่ากลัว เพราะฉะนั้นมันจึงเกิดเป็นการเล่าเรื่องที่เติมแต่งจินตนาการใส่เข้าไปอย่างไม่สิ้นสุด เช่น “Herobrine สามารถสร้างพีระมิดได้ในชั่วพริบตา มันทั้งสุดยอดและน่ากลัวมาก!!”, “เขาสามารถเรียกฟ้าผ่าแบบรุนแรง ชนิดที่ว่าโดนเข้าไปจะทำให้เข้าโลกนั้นไม่ได้อีกเลยนะ!!”, “ถ้าอยากจะเจอเขาตัวเป็น ๆ ต้องทำพิธีอัญเชิญ เชื่อฉันสิ ฉันลองทำแล้ว เจอตัวเป็น ๆ เลยนะ!!”
นอกจากนั้นยังอาจมีการใส่ทฤษฎีต่าง ๆ เข้าไปด้วย เช่น “จริง ๆ แล้ว Herobrine คือ Steve ที่คอยดูผู้เล่นอย่างเรา ๆ อยู่ซักที่หนึ่งในโลก”, “Herobrine เคยจะทำลายโลก แต่เขานั้นกลับใจเพราะโดนหักหลัง” และอีกสารพัดเรื่องราวที่เรานั้นไม่เคยได้ยิน
ซึ่งการใส่จินตนาการลงไปในเรื่องราวที่เล่าต่อกันแบบนี้ ทำให้ผู้อ่านเกิดความกลัว, กังวล และความเครียด หรือในทางกลับกัน บางคนอาจจะเกิดเป็นความตื่นเต้น ท้าทาย หรืออยากตามหาความจริงก็เป็นได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดจากสารเคมีในร่างกายอย่างอะดรีนาลีน (Adrenaline) ที่หลั่งตอนออกมากระตุ้นความรู้สึกของเรานั่นเองครับ
‘ผี’ ผูกโยง ‘มนุษย์’ เข้าด้วยกัน
มนุษย์นั้นเป็นสัตว์สังคม หมายความว่า เราจำเป็นที่จะต้องอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเพื่อดำรงชีพ, การศึกษา รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ ไม่ว่าจะระหว่างตัวเรากับพ่อแม่, ครู, นักเรียน, แฟน, เพื่อนในชีวิตจริง และเพื่อนบนโลกออนไลน์ แล้วทำไมต้องเป็นเรื่องผี หรือเรื่องที่มันน่ากลัวด้วยละ? ทั้งที่มีเรื่องอีกหลายแบบที่สามารถบอกเล่ากันเพื่อสร้างความสัมพันธ์ได้ ไม่ว่าจะเรื่องดราม่า, การศึกษา, เรื่องตลก หรือแม้กระทั่งเรื่องความรัก
ผมคงต้องถามพวกคุณก่อนว่า คุณเคยเจอเพื่อนที่ฟังแต่ The Ghost Radio ทั้งวันไหม?, คุณเคยเห็นพ่อกับแม่ของตัวเองนอนฟังอาจารย์ยอดก่อนนอนไหม? หรือคุณเห็นยูทูบเบอร์ไม่ก็สตรีมเมอร์ชอบทำคอนเทนต์แนวผี ๆ ไหม? ถ้าผมบอกว่าเพราะคนเรา ‘ชอบความน่ากลัว’ ล่ะ
ซึ่งผมเองก็ไม่ได้ยกมามั่ว ๆ แน่นอนว่ามันมีเหตุผลของ ‘จิตวิทยา’ รองรับอยู่ครับ โดยผมขอยกบทความของคุณ ‘ภูษิต เรืองอุดมกิจ’ ในหัวข้อ “ทำไมคนชอบฟังเรื่องผี?” กับเหตุผลทางจิตวิทยาและสังคมบนเว็บไซต์ Beartai มาอ้างอิงและอธิบายให้ทุกคนได้อ่านกันครับ
เพราะความอยากรู้อยากเห็นในสิ่งรอบตัว เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนมีติดตัวมาตั้งแต่ยุคโบราณ และสิ่งนี้เองทำให้มนุษย์สามารถเอาตัวรอด, ได้รับความรู้ และวิวัฒนาการได้เร็วกว่าสัตว์ชนิดอื่น ๆ แต่เพราะการอยากรู้อยากเห็นในสิ่งที่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้ เช่น ผีและโลกหลังความตายมีจริงไหม? จึงทำให้เกิดทฤษฎีมากมายทั้งในรูปแบบของเรื่องเล่า, ปรัชญา, ศาสนา หรือการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ถึงแม้สิ่งเหล่านี้จะถูกหยิบยกมาทำเป็นสื่อบันเทิง แต่เชื่อว่าลึก ๆ ข้างในของคุณผู้อ่านแล้ว ก็อยากจะรู้และพิสูจน์สิ่งเหล่านี้ด้วยตัวของตัวเองแน่นอน
ซึ่งยังมีอีกหลายเหตุผลทางจิตวิทยา หากใครสนใจอ่านตัวฉบับเต็ม สามารถเข้าอ่านได้ที่ลิงก์นี้ได้เลยครับ
อย่างเช่นเรื่องแต่งอย่าง creepypasta ของ Herobrine ก็ทำให้ทุกคนช่วยกันสืบ ช่วยกันหาความจริง จนเกิดเป็นการเล่าแบบปากต่อปาก อาจบอกได้ว่าเล่ากันให้ช่วยกันตามหา หรือเล่าให้น่ากลัวเพื่อแกล้งเพื่อน แต่ทั้งหมดนี้ก็ทำให้เกิดสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน ทั้งจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่ง หรือจากกลุ่มหนึ่งไปอีกกลุ่มหนึ่ง
บทบาทของ Herobrine ในปัจจุบัน
แน่นอนว่า Herobrine ในปัจจุบันยังคงเป็น iconic หรือสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความน่ากลัวประจำเกมไมน์คราฟต์ เพราะยังคงมีเรื่องเล่าและทฤษฎีมากมายที่หลายคนกำลังหาคำตอบกันอยู่ รวมถึงยังมีผู้พัฒนาม็อดเองที่เอา Herobrine มาเป็นหนึ่งในตัวชูโรง ทำให้ผู้เล่นใหม่ ๆ พอจะเข้าใจถึงความน่ากลัวของ Herobrine บ้าง ถึงจะไม่ใช่ความรู้สึกจากผู้เล่นยุคแรก ๆ ก็ตาม
แต่ในอีกฝากหนึ่ง Herobrine ก็ถูกหยิบมาทำเป็นแอนิเมชันหลากหลายแนว ไม่ว่าจะเป็น ช่อง Squared Media ที่นำเรื่องเล่าของ Herobrine จาก 4chan มาผสมกับทฤษฎีและเนื้อเรื่องที่เข้มข้นในซีรีส์ “Alex and Steve Life” หรือจะเป็น Herobrine แบบถอดสมอง ดูเพื่อผ่อนคลายสำหรับเด็ก ๆ อย่างช่อง oreE TV ที่ลงเป็นคลิปสั้นเป็นหลัก ถึงจะไม่มีชื่อซีรีส์ที่ชัดเจน แต่ภายในคลิปจะเป็นการช่วย Herobrine ด้วยการกดไลค์และกดแชร์ เพื่อให้เจ้าตัวมีพลังมากขึ้นและสามารถเอาชนะบททดสอบที่ Mash Burnedead เวอร์ชันไมน์คราฟต์มอบให้นั่นเอง
ตัวจุดประกายให้เกิด creepypasta เรื่องอื่น ๆ ในไมน์คราฟต์
นอกจาก Herobrine แล้วยังมี creepypasta เรื่องอื่น ๆ ในไมน์คราฟต์ที่น่ากลัวไม่แพ้กัน แต่แน่นอนว่าตัวละครทั้งหมดนี้ไม่มีอยู่จริงในจักรวาลหลักของไมน์คราฟต์
เช่น Entity 303 ชายใส่ชุดขาวทั้งตัวโดยเผยให้เห็นแค่ใบหน้า ผิวกายของเขานั้นดำสนิทและมีดวงตาสีแดงฉาน หรือบางทีก็เป็นสีขาวเหมือนกับ Herobrine โดยความสามารถหลัก ๆ คือการเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ของผู้เล่น ทำให้เกิดความปั่นป่วนจนพังพินาศ นอกจากนั้นยังมีความสามารถในการเคลื่อนที่ไวราวกับหายตัวได้ และด้วยพฤติกรรมที่ก้าวราว ทำให้ใครก็ไม่อยากเจอเขาอย่างแน่นอน
นอกจากนั้นยังมี Null กลุ่มก้อนพลังงานสีดำทะมึน ที่ข้างในก้อนพลังนั้นมีใครสักคนอยู่ โดยร่างกายของเขาก็เป็นสีดำเหมือนกับก้อนพลังงาน แม้ผิวกายจะเป็นสีดำ แต่กลับมีสิ่งหนึ่งที่มองเห็นได้ชัด นั่นคือดวงตาสีขาวที่เหมือนกับ Herobrine และนั่นเองทำให้เขาได้ฉายาว่า “Shadowbrine” โดยความสามารถหลัก ๆ คือ การเคลื่อนย้ายสิ่งของได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหิน, ดิน, แร่ หรือแม้กระทั่งบ้าน และโลกที่ผู้เล่นสร้างขึ้น นอกจากนั้นยังมีทักษะในการใช้อาวุธระยะใกล้อย่างดาบด้วย และสุดท้ายคือ ความเป็นนิรันดร์ ไม่มีอะไรที่จัดการเขาได้ ไม่มี!!
นอกจากนั้นยังมี Creepypasta ตัวอื่น ๆ อีกมากมาย หากใครเคยพบเจอเรื่องราวอื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ สามารถมาพูดคุยกันได้ครับ
การเกิดของม็อดสยองขวัญที่ก้าวข้ามตำนาน Herobrine
ในยุคสมัยใหม่ของไมน์คราฟต์ที่มีทั้งเหล่าผู้เล่นนับร้อยล้านคน, ผู้สร้างคอนเทนต์อีกมากมาย รวมถึงเทคโนโลยีการทำม็อดที่ก้าวกระโดด ทำให้มีม็อดไมน์คราฟต์มากมายหลายแบบ เช่น ม็อดอำนวยความสะดวก, เทคโนโลยี, ยุคกลาง, อาวุธกับอุปกรณ์ และสุดท้ายที่เราจะมาพูดกันนั่นก็คือ ‘ม็อดสยองขวัญ’
โดยในปัจจุบันมีม็อดที่ทำให้เรารู้สึกถึงความน่าสะพรึงกลัวมากมาย อย่างม็อดที่มี Herobrine เป็นตัวชูโรง เช่น “The End of Herobrine” ที่คุณสามารถอัญเชิญเขามาได้ แต่คุณจะรับผิดชอบมันได้หรือเปล่า, “Cave Horror Project – CHP1” ที่ตัว Herobrine จะไม่เข้าทำร้ายเราเสมอไป แต่เขาจะจ้องมองคุณ จนกว่าคุณจะหายไป, “The Steve Dweller – Creepypasta” น่าจะเป็น Mods ที่ใช้งาน Herobrine ได้น่ากลัวที่สุดแล้ว เพราะหลังจากที่เขาเจอคุณ เขาจะไล่ล่าคุณ จนกว่าคุณจะตาย
หรือถ้าไม่ได้เป็น Herobrine ล่ะ?? เช่น “Sons Of Sins” ม็อดที่อิงเรื่องบาปทั้งเจ็ดจากศาสนาคริสต์ ได้แก่ ความเย่อหยิ่ง, ความโลภ, ราคะ, ความตะกละ, โทสะ และความเกียจคร้าน โดยตัวม็อดได้ตีความบาปทั้งเจ็ดออกมาได้ดีมาก เพราะรูปร่างหน้าตานั้นบ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่าเป็นบาปชนิดใด หากคุณอยากเจอพวกมัน คุณจะต้องสังเวยตัวคุณเองหรือชาวบ้าน โดยการแช่ในบ่อเลือด หลังจากการสังเวยเสร็จสิ้น บ่อนั้นจะสุ่มบาปหนึ่งในเจ็ดออกมา และแน่นอนว่ามันอันตราย คุณจะยอมรับในบาป หรือจะปราบมันด้วยวิธีของคุณ
หรืออีกม็อดอย่าง “The Man From The Fog” ที่ตัวม็อดได้เพิ่มมอนสเตอร์ตัวหนึ่งที่ชื่อว่า The Man From The Fog โดยเขาจะออกมาหาคุณทุก ๆ 1-2 วัน โดยเขาจะเฝ้ามองคุณเสมอ แต่ถ้าคุณเมิน ไม่สนใจเขา เขาจะเข้าใกล้คุณมากขึ้นและมากขึ้น ซึ่งผมไม่คงต้องสาธยายว่าจะเกิดอะไรขึ้นหาก The Man From The Fog อยู่ตรงหน้าคุณ
ตามที่เคยกล่าวไปก่อนหน้านั้น ถึงแม้ม็อดพวกนี้จะไม่สามารถสร้างความรู้สึกได้เหมือน 10 ปีก่อน แต่ม็อดเหล่านี้ก็จำลองความรู้สึกได้อยู่บ้าง หรือบางคนอาจจะชอบมากกว่า เพราะมันสามารถจับต้องได้จริง เห็นได้จริง และน่ากลัวจริง
สรุป
และนี้ก็เป็นเรื่องราวทั้งหมดของชายที่ชื่อว่า Herobrine สุดท้ายแล้วเขาก็เป็นเพียง creepypasta ที่เกิดจากจินตนาการของมนุษย์ ถึงแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่ามันไม่ใช่เรื่องจริง แต่บางคนก็ยังคงกลัวเขาอยู่ โดยในปัจจุบัน Herobrine ยังได้รับความนิยมและยังเป็นเรื่องสยองขวัญกระแสหลักในจักรวาลไมน์คราฟต์ ถึงแม้จะมีม็อดมากมายที่มาแทนความรู้สึกในยุคนั้น แต่มันก็เทียบไม่ได้เลย อย่างไรก็ตาม เรื่องความรู้สึกหรือความชอบก็เป็นเรื่องของปัจเจก บางคนอาจจะชอบความรู้สึกแบบใหม่มากกว่าก็ได้
แล้วทุกคนล่ะ เคยเจอประสบการณ์อะไรเกี่ยวกับ Herobrine บ้างไหมครับ
อ้างอิง
- “‘ทำไมคนชอบฟังเรื่องผี?’ กับ 4 เหตุผลทางจิตวิทยา และสังคม” – beartai.com, 24 มกราคม 2024
- “เปิดตำนาน Herobrine – Minecraft | The Codex” – youtube.com, 9 เมษายน 2022
- “ปริศนา Herobrine เรื่องลึกลับในตำนานของเกมมายคราฟ” – youtube.com, 10 พฤษภาคม 2022
- “After 13 Years, the True Story of Herobrine was Just DISCOVERED…” – youtube.com, 29 ตุลาคม 2023
- “Cave Horror Project – CHP1” – curseforge.com, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “Entity 303” – squared-media.fandom.com, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “Herobrine” – minecraft.wiki, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “Live Show Procaster Mon Aug 30 2010 11 24 42 AM on Minecrafterryday live streaming video powere” – youtube.com, 15 กรกฎาคม 2024
- “New Evidence in the Search for Herobrine’s Origins” – youtube.com, 31 กรกฎาคม 2024
- “Null” – squared-media.fandom.com, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “Sons Of Sins” – curseforge.com, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “The End of Herobrine” – curseforge.com, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “The Man From The Fog” – curseforge.com, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “The Steve Dweller – Creepypasta” – curseforge.com, สืบค้นเมื่อ 30 ตุลาคม 2024
- “Top 10 Things You Need To Know About Minecraft Null” – youtube.com, 27 พฤษภาคม 2022
เขียนและตรวจสอบ
- Written by PhoNgPitCHz
- Edit & Proofread by Suprem